แผนที่กระดาษยังเป็นแผนที่ที่มีประสิทธิภาพมาก เนื่องจากข้อจำกัดของแผนที่ในระบบคอมพิวเตอร์

การสำรวจข้อมูลภาคสนามโดยใช้แผนที่เพื่อปรับปรุงข้อมูลแผนที่ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ จำเป็นต้องพิจารณากำหนดชนิดของคุณลักษณะข้อมูล

Improving map data in geographic information systems with field data surveys using maps. We need consideration to determine the type of data feature.

จัดเก็บข้อมูลภาคสนามด้วยแผนที่เพื่อจัดทำและนำเสนอข้อมูลในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ จำเป็นต้องพิจารณากำหนดชนิดของคุณลักษณะข้อมูล (Feature Type)

ากมอง GIS ในฐานะเครื่องมือแล้ว GIS จะประกอบด้วย Hardware Software Data Information Network Application และ Peopleware หากแต่ผลผลิตของ GIS คือสารสนเทศ (Information) ซึ่งลักษณะเด่นคือ สารสนเทศเชิงพื้นที่ (Spatial Information)

เมื่อรู้จัก ลักษณะปรากฏการณ์ที่ (Feature) กำหนดชนิดของข้อมูลและข้อเท็จจริงแล้ว การนำค่าข้อมูลที่เป็น Attribute data มาจำแนกและแสดงผลในรูปแผนที่หรือบางคนเรียกว่าส่วนที่เป็น Graphic data เป็นสิ่งที่จำเป็น  

เมื่อรู้จัก ลักษณะปรากฏการณ์ที่ (Feature) กำหนดชนิดของข้อมูลและข้อเท็จจริงแล้ว การนำค่าข้อมูลที่เป็น Attribute data มาจำแนกและแสดงผลในรูปแผนที่หรือบางคนเรียกว่าส่วนที่เป็น Graphic data เป็นสิ่งที่จำเป็น  

  เมื่อรู้จัก ลักษณะปรากฏการณ์ที่ (Feature) กำหนดชนิดของข้อมูลและข้อเท็จจริงแล้ว การนำค่าข้อมูลที่เป็น Attribute data มาจำแนกและแสดงผลในรูปแผนที่หรือบางคนเรียกว่าส่วนที่เป็น Graphic data เป็นสิ่งที่จำเป็น ผู้ผลิตต้องเข้าใจการนำเสนอสารสนเทศ (Information) ให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ แน่นอนว่าสารสนเทศ (Information) คงไม่ใช่ ข้อมูลฐาน (Datum) อย่างเดียว การที่ผู้ผลิตจะทำให้ผู้ใช้เข้าใจและรับรู้ข้อเท็จจริงที่ผ่านการประมวลผลแล้ว ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) จะมีรูปแบบการนำเสนอสารสนเทศได้ 4 วิธีหลัก ดังนี้

 1. Categories : เป็นการนำเสนอสารสนเทศโดยการจำแนกประเภทข้อมูลเป็นกลุ่ม ๆ โดยการจัดปรากฏการณ์เชิงพื้นที่ (Feature) หรือสิ่งที่เหมือนกันไว้ในกลุ่มเดียวกัน เช่น แสดงที่ตั้งสถานที่ราชการจำแนกเป็นประเภท สำนักงานเขต/อำเภอ หน่วยงานราชการ สถานีตำรวจ สถานที่ศึกษา  มหาวิทยาลัย ฯลฯ

2. Counts and Amounts : เป็นการนำเสนอสารสนเทศโดยการจำแนกประเภทข้อมูลปรากฏการณ์เป็นกลุ่มๆ โดยการนับจำนวนรวมของปรากฏการณ์ทางพื้นที่ (Feature) หรือตามค่าข้อมูลที่เป็น Attribute data เช่น แสดงค่าคะแนนความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ในแต่ละพื้นที่ โดยจำแนกเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเห็นข้อเท็จจริงได้ละเอียดขึ้น

3. Ranks : เป็นการนำเสนอสารสนเทศโดยการจำแนกประเภทข้อมูลปรากฏการณ์เป็นกลุ่มๆ ตามลำดับ เช่น ความมาก-น้อย ความสูง-ต่ำ ความเข้ม-จาง ฯลฯ เช่น แสดงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ โดยจำแนกเป็นผลสรุปในแต่ละพื้นที่เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้อย มีความเสี่ยงปานกลาง และมีความเสี่ยงมาก-มากที่สุด

 

 4. Ratios : เป็นการนำเสนอสารสนเทศโดยการจำแนกประเภทข้อมูลปรากฏการณ์เป็นกลุ่มๆ โดยนำความสัมพันธ์ของข้อมูล 2 ค่า มาเปรียบเทียบหรือกระทำต่อกัน เช่น

                 ค่าสัดส่วน เป็นการเปรียบเทียบโดยการหารกันของ 2 ค่า  

                 ค่าร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ เป็นการเปรียบเทียบโดยคิดเป็นสัดส่วนของค่าร้อย

                ค่าเฉลี่ย เป็นการเปรียบเทียบระหว่างค่า2 ค่าที่เกิดจากการรวมค่าข้อมูลหารด้วยจำนวนรวมของปรากฏการณ์ทางพื้นที่ (Feature) ทั้งหมด

 

  • การสำรวจข้อมูลภาคสนามโดยใช้แผนที่เพื่อปรับปรุงข้อมูลแผนที่ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ จำเป็นต้องพิจารณากำหนดชนิดของคุณลักษณะข้อมูล

    Improving map data in geographic information systems with field data surveys using maps. We need consideration to determine the type of data feature.

    อ่านเพิ่มเติม...
  •  

    เมื่อโลกมีลักษณะเป็นทรงกลมคล้ายผลส้ม การทำแผนที่ซึ่งต้องเป็นแผ่นราบใช้พกพา การย่อส่วนและการใช้สัญลักษณ์แสดงสิ่งที่ปรากฏบนพื้นโลกซึ่งต้องการความถูกต้องใกล้เคียงทั้งทิศทาง ระยะทาง รูปร่างและพื้นที่เป็นสิ่งจำเป็นที่นักภูมิศาสตร์ต้องสร้างเส้นโครงแผนที่ขึ้นมา 

    อ่านเพิ่มเติม...
  • ประเทศไทยเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัย ขณะที่ประชากรวัยชราและประชากรวัยเด็กซึ่งเป็นวัยพึ่งพิงต้องการการเลี้ยงดูและดูแลจากวัยแรงงาน ภายใต้สภาวะประชากรวัยเด็ก”ลดลง "วัยชรา"เพิ่มขึ้น "วัยแรงงาน" พร้อมจะเลี้ยงดูและดูแลกันอย่างไร 

    อ่านเพิ่มเติม...
JSN Epic is designed by JoomlaShine.com