เมื่อโลกมีลักษณะเป็นทรงกลมคล้ายผลส้ม การทำแผนที่ซึ่งต้องเป็นแผ่นราบใช้พกพา การย่อส่วนและการใช้สัญลักษณ์แสดงสิ่งที่ปรากฏบนพื้นโลกซึ่งต้องการความถูกต้องใกล้เคียงทั้งทิศทาง ระยะทาง รูปร่างและพื้นที่เป็นสิ่งจำเป็นที่นักภูมิศาสตร์ต้องสร้างเส้นโครงแผนที่ขึ้นมา 

เมื่อรู้จัก ลักษณะปรากฏการณ์ที่ (Feature) กำหนดชนิดของข้อมูลและข้อเท็จจริงแล้ว การนำค่าข้อมูลที่เป็น Attribute data มาจำแนกและแสดงผลในรูปแผนที่หรือบางคนเรียกว่าส่วนที่เป็น Graphic data เป็นสิ่งที่จำเป็น  

หากพิจารณาแนวคิดของระบบ GIS โดยรวมๆแล้วนักวิชาการพยายามนิยาม ระบบ GIS” เป็น 3 แนวทางตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ได้แก่

สารบัญ

มนุษย์พยายามบอกเล่าปรากฏการณ์บนพื้นพิภพเป็นภาษา Cartographic Map

มนุษย์จดจำความรู้และสภาพแวดล้อมแล้วนำมาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง ซึ่งเราได้รู้จักและเรียกกันว่า แผนที่ในใจ (Mental Map) แล้วนั้น การที่แผนที่ในใจของแต่ละคนไม่เหมือนกันนั้น การพยายามหาเครื่องมือสื่อสารที่เป็นรูปแบบแตกต่างกันไปตั้งแต่รูปแบบง่ายๆ ไปจนรูปแบบซับซ้อนยุ่งยาก เช่น ภาษาพูด ภาษาเขียน ภาษาทางคณิตศาสตร์

สำหรับภาษาที่ใช้สื่อสารปรากฏการณ์บนพื้นโลก มนุษย์สื่อสารด้วย ภาษาภาพ หลากหลายรูปแบบ ได้แก่

  •          รูปภาพ (Image) เป็นภาษาภาพที่เกิดจากการวาดหรือเขียนแสดง ขนาด ที่ตั้ง รูปร่าง สีสัน แสงเงา โดยพยายามย่อส่วนให้มีลักษณะเหมือนของจริง โดยปัจจุบันมนุษย์พยายามวาด เขียน หรือจัดทำรูปภาพให้มีลักษณะเป็น 3 มิติเพื่อให้ผู้รับสื่อสามารถเข้าใจใกล้เคียงกับปรากฏการณ์จริง ณ เวลาใดเวลาหนึ่งที่สุด

  •         หุ่นจำลอง (Physical Model) เป็นการจัดทำปรากฏการณ์บนพื้นพิภพให้มีลักษณะเป็น 3 มิติ โดยย่อส่วนปรากฏการณ์ลงมาเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม โดยหุ่นหรือแบบจำลองอาจจะทำด้วยวัสดุที่แตกต่างกันไป เช่น โลหะ ปูน พลาสติก โฟม ดินน้ำมัน ดินเหนียว ทราย หรืออื่น ๆ

  • ราชบัณฑิตยสถาน (2549,258) ให้ความหมายของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System) ว่า ระบบข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมโยงกับค่าพิกัดภูมิศาสตร์....." แล้วเข้าใจข้อมูลที่เชื่อมโยงกับค่าพิกัดภูมิศาสตร์ว่าอย่างไร

    อ่านเพิ่มเติม...
JSN Epic is designed by JoomlaShine.com