มนุษย์พยายามบอกเล่าปรากฏการณ์บนพื้นพิภพเป็นภาษา Cartographic Map

จัดเก็บข้อมูลภาคสนามด้วยแผนที่เพื่อจัดทำและนำเสนอข้อมูลในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ จำเป็นต้องพิจารณากำหนดชนิดของคุณลักษณะข้อมูล (Feature Type)

แผนที่ หมายถึงสิ่งที่แสดงลักษณะของพื้นผิวโลกทั้งหมด หรือบางส่วนบนพื้นราบโดยการย่อส่วนและใช้สัญลักษณ์แทนรายละเอียดต่าง ๆที่ปรากฏอยู่ การจำแนกประเภทแผนที่มีหลายวิธีการ

 

แผนที่เป็นตัวแทนของข้อมูลเชิงพื้นที่ที่ถูกจัดเก็บไว้ในระบบ GIS ในขบวนการของระบบ GIS ที่ มีการใช้งานแผนที่ ประกอบด้วยขบวนการได้มาของข้อมูล การประมวลผล การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงพื้นที่

 

เมื่อปรากฏการณ์บนพื้นโลกถูกแสดงเป็นแผนที่ทั้งในรูป Hard Copy (กระดาษ, แผ่นผ้า, พลาสติก ฯลฯ) และ Soft Copy (Digital Map) ปัจจุบันเราจะรับรู้ว่ามีการจัดเก็บในระบบ GIS ในรูป Feature ที่เป็น Graphic data และ Attribute data  

นักแผนที่และนักสำรวจจะต้องปรับตัวเมื่อตำแหน่งมือถือปรากฏบนแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมในหน้าจอมือถือได้ถูกต้อง

 

ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักภูมิศาสตร์ที่มีความรู้เรื่องแผนที่และการสำรวจพื้นที่ หลายคนฉงนกับแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ปรากฏในมือถือ และตื่นเต้นกับตำแหน่ง GPS จากมือถือ ที่ปรากฏบนแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียม อีกทั้งยังมองเห็นรูปถ่ายจากพื้นที่จริงจากข้อมูล Street View และเมื่อขับรถแค่บอกตำแหน่งปลายทางโปรแกรมในมือถือก็สามารถนำทางโดยบอกได้ทั้งเส้นทาง บอกเวลา บอกสภาพการจราจร หลายคนตั้งคำถามว่า แล้วนักภูมิศาสตร์จะต้องปรับตัวอย่างไรสำหรับผม คำตอบคงไม่ยากลำบาก แค่เรียนรู้และเข้าใจในศาสตร์ และศึกษาให้รู้เท่าทันพื้นฐานแนวคิดวิธีการของเทคโนโลยี เท่านั้น เราก็จะสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์ของข้อมูลและเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ตามองค์ความรู้ของศาสตร์ต่าง ๆ ที่เรามีได้

 

สำหรับบทความชุด เทคโนโลยี กับพื้นที่และเวลาตอนที่ 1 กล่าวถึง ตำแหน่งมือถือปรากฏซ้อนทับบนแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมได้อย่างไรตอนที่ 2 กล่าวถึง ทำไมโปรแกรมแผนที่บนมือถือจึงบอกเส้นทางรถเพื่อนำทางเราได้ตอนที่ 3 กล่าวถึง ทำไมโปรแกรมแผนที่บนมือถือจึงบอกสภาพการจราจรเราได้ตอนที่ 4 กล่าวถึงแล้วก็เกิด IoT, Big Data, Data Analytic, Data Science และอื่น ๆ แล้วแต่ใครจะเรียกตอนที่ 5…6…7… จะกล่าวถึงเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี กับพื้นที่และเวลา ในมุมอื่น ๆ อีกต่อ ๆ ไป

 

ลองมาพิจารณาแนวคิดและวิธีการของปรากฏการณ์การเกิดตำแหน่งของมือถือที่ซ้อนทับบนข้อมูลแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมบนเมือถือว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

 

            ปัจจุบันการใช้มือถือของมนุษย์เพื่อประโยชน์ต่าง ๆ เป็นเรื่องปกติ ผู้คนที่มีความรู้มาก หรือความรู้น้อยก็สามารถเข้าถึงและใช้ข้อมูลและโปรแกรมบนมือถือได้ ปัจจุบันมือถือหรือ Smart Phone จะติดตั้งอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณ GPS เพื่อบอกตำแหน่งของมือถือบนพื้นโลก  ซึ่งผู้ใช้มือถือจะตื่นเต้นกับการเห็นแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมที่มีรายละเอียดมาก เห็นอาคารบ้านเรือน ต้นไม้ สิ่งก่อสร้างฯลฯ ตื่นเต้นกับการเห็นตำแหน่งที่ตัวเองถือมือถืออยู่

แล้วในมือถือมีข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างไร.... ตอบแบบคนคิดมากก็คือ การแลกเปลี่ยนกันระหว่างข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้กับข้อมูลแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมของบริษัทหรือองค์กรเจ้าของข้อมูลนั่นเอง

เมื่อมือถือลงทะเบียนแล้วก็ต้องยอมรับกฎที่บริษัทหรือองค์กรเจ้าของข้อมูลและโปรแกรมตั้งไว้

 

เราพบว่าในความจริงในหลายพื้นที่บนโลกมีองค์กรทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลที่ติดตั้งและเป็นเจ้าของ Servers ที่มีข้อมูลและโปรแกรมที่ใช้ภายในองค์กรและให้บริการผู้อื่นอยู่มากมาย โดย Servers เหล่านั้นเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายใช้งานผ่านระบบ Internet และ Intranet

เมื่อเราใช้มือถือหรือ Smart Phone และต้องการ Download หรือใช้ข้อมูลและโปรแกรมสนใจ จุดเริ่มต้นจะอยู่ที่การลงทะเบียนบอกตัวตนเพื่อขอใช้ข้อมูลจากบริษัทหรือองค์กรเจ้าของข้อมูลและโปรแกรม ซึ่งหลายคนลงทะเบียนเอง หลายคนบอกหมายเลขโทรศัพท์ e-mail address หรือประวัติอื่น ๆ ให้กับผู้ขายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ขายมือถือจะนำไปลงทะเบียนต่อไป (เช่น หากต้องการใช้โปรแกรม Play Store เพื่อ Download โปรแกรมอื่นที่สนใจ ก็ต้อง Download Google Play พร้อมสมัคร Play Store ในการลงทะเบียนก็คือการบอกประวัติไว้ใน Servers ของ Google) และโดยทั่วไปเมื่อมือถือลงทะเบียนแล้วก็ต้องยอมรับกฎที่บริษัทหรือองค์กรเจ้าของข้อมูลและโปรแกรมตั้งไว้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการยอมรับการขาดความเป็นส่วนตัวในบางเรื่องของผู้ลงทะเบียนและหากเป็นการลงทะเบียนระดับองค์กร หมายความว่าองค์กรต้องตอมรับกฎนั้นด้วยเช่นกัน หลายคนอาจจะหลีกเลี่ยงโดยการลงทะเบียนด้วยข้อมูลเท็จ แต่เมื่อใดก็ตามที่ต้องทำธุรกรรมผ่านโลกไซเบอร์ก็ต้องลงทะเบียนด้วยข้อมูลจริง และข้อมูลเหล่านี้ก็จะถูกเชื่อมโยงไปยัง Servers อื่น ๆ ต่อไป และข้อมูลเท็จเดิมก็จะถูกตรวจสอบกลับด้วยข้อมูลจริงในภายหลัง

เมื่อต้องการใช้โปรแกรมและข้อมูลแผนที่หรือภาพถ่ายจากดาวเทียมก็ต้องลงทะเบียนและยอมรับกฎของผู้บริการข้อมูลหรือโปรแกรมด้วยเช่นกัน  

ในการใช้งานระบบ GPS โปรแกรมและข้อมูลแผนที่หรือภาพถ่ายจากดาวเทียมบนมือถือ ต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ โดยเบื้องต้นต้องลงทะเบียนและยอมรับกฎของผู้บริการข้อมูลหรือโปรแกรม

การติดตั้งข้อมูลและโปรแกรมบนมือถือหรือ Smart Phone จะต้อง Login ผ่านระบบ Internet เข้าสู่ Servers เพื่อ Download ข้อมูลและโปรแกรม (เราไม่สามารถรู้ว่าในขบวนการนี้มีการ Upload ข้อมูลอะไรของเราเข้าสู่ Servers บ้าง)

เมื่อมีการใช้โปรแกรมต่าง ๆ ผ่านระบบ Internet ข้อมูลจำนวนมากจากมือถือที่เราใช้จะถูกรับ-ส่งและกระจายไปในเครือข่ายของโลกเข้าสู่ Servers เป็นฐานข้อมูลสำหรับ Application ต่าง ๆ มากมาย โดยบางส่วนอาจจะถูกลบล้างทำลายตามเวลาที่โปรแกรมกำหนด บางส่วนอาจจะถูกเก็บไว้นานเท่าที่ Application นั้น ๆ กำหนด เช่นเดียวกัน

การเชื่อมระหว่างสัญญาณ GPS บนมือถือกับดาวเทียม GPS จะเกิดการคำนวณทำให้รู้ตำแหน่งพิกัดของมือถือ

          เมื่อเราเปิดมือถือและเปิดสัญญาณ GPS บนมือถือ จะมีการส่งสัญญาณถึงกันระหว่าง มือถือกับดาวเทียม GPS (ปกติผู้ใช้มือถือจะเปิดสัญญาณ GPS ทิ้งไว้ตลอด หรือบางครั้ง Application ที่เราใช้บนมือถือก็บังคับให้เปิดสัญญาณ GPS)

 

การเชื่อมระหว่างสัญญาณ GPS บนมือถือกับดาวเทียม GPS จะเกิดการคำนวณตำแหน่งที่ตั้งของมือถือ เพื่อบอกตำแหน่งพิกัดโลกเทียบกับตำแหน่งดาวเทียม GPS ยิ่งรับสัญญาณดาวเทียม GPS ได้หลาย ๆ ดวง ตำแหน่งพิกัดโลกที่คำนวณได้ยิ่งแม่นยำ (เมื่อดาวเทียม GPS ทุกดวงติดตั้งนาฬิกาที่ละเอียดมาก เมื่อรู้ตำแหน่งและระยะห่างของดาวเทียม GPS จากโลก รู้ความเร็วในการโคจรของดาวเทียม GPS รู้ระยะห่างและมุมที่กระทำต่อกันของดาวเทียมแต่ละดวง รู้ระยะและ/หรือมุมของจุดกำเนิดสัญญาณ GPS จากมือถือกับดาวเทียม GPS แต่ละดวง.... หากศึกษาเรื่องการรังวัด หลักการทางเรขาคณิตและการเคลื่อนที่ของวัตถุ ย่อมจะทำให้รู้ตำแหน่งที่ตั้งของมือถือซึ่งเป็นตำแหน่งพิกัดโลก)

เมื่อทราบค่า X,Y บนพื้นโลก ณ ตำแหน่งมือถือแล้ว โปรแกรมในมือถือจะส่งข้อมูลค่า X,Yของพื้นโลกไปที่ Servers ที่เก็บข้อมูลแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมเพื่อคำนวณพื้นที่โดยรอบบริเวณตำแหน่งนั้น แล้วส่งข้อมูลแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมตาม Request ของโปรแกรมกลับมายังมือถือเป็น Temporary Data.....(1) ข้อมูลแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ถูกส่งกลับมายังมือถือจะมีค่าพิกัด X,Y ของพื้นโลกทุก ๆ ตำแหน่งของภาพหรือทุกๆ  Pixels หลังจากนั้นโปรแกรมจะนำข้อมูลตำแหน่ง X,Y ของที่ตั้งมือถือแสดงเป็นสัญลักษณ์ซ้อนทับรูปแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมในมือถือ....(2) (ปกติ Request ของโปรแกรมจะเป็นค่าตั้งต้นพื้นฐานหรือค่า Default ซึ่งจะเป็นขนาดของพื้นที่หน้าจอ พื้นที่โลก มาตราส่วน รายละเอียดข้อมูลที่ต้องการแสดง หาก Request ของโปรแกรมเปลี่ยนไปเมื่อผู้ใช้ย่อ-ขยายหรือเลื่อนการแสดงพื้นที่ โปรแกรมจะส่งข้อมูลค่า X,Y ตำแหน่งใหม่ไปที่ Servers เพื่อคำนวณพื้นที่ใหม่ แล้วส่งข้อมูลแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมกลับมาเก็บเป็น Temporary Data ในมือถือต่อไป) (บางโปรแกรมอาจจะกำหนดให้ผู้ใช้มือถือจัดเก็บข้อมูลแผนที่ไว้ในเครื่องก่อนแล้ว และทำการส่งข้อมูลมาปรับปรุงแผนที่ให้ทันสมัยเป็นระยะ ๆ เพื่อให้แสดงผลตำแหน่ง X,Y ของที่ตั้งมือถือได้รวดเร็ว แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีการบีบอัด-ขยายภาพและความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลของระบบ Internet มีข้อจำกัดน้อยมาก การรับ-ส่งข้อมูลแผนที่และภาพถ่ายจากดาวเทียมระหว่างมือถือกับServers จึงเป็นไปแบบ Real Time)

 เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อมูลตำแหน่งดาวเทียม GPS จะถูกส่งไปมาระหว่างดาวเทียม GPS กับ Servers เสมอ (แน่นอนว่าต้องส่งข้อมูลมาที่ Servers ที่เป็น Base Station ส่วนส่งหรือเชื่อมไปที่ Servers อื่น ๆ อีกหรือไม่ยังไม่ยืนยัน) .....(3)

(ความเข้าใจเรื่องค่าพิกัด X,Y บนพื้นโลก อ่านได้จาก เส้นโครงแผนที่...สิ่งสำคัญต่อการอ่านและแปลความหมายในแผนที่http://www.geo2gis.com/index.php/geography/2016-01-29-05-50-20/254-map-projection-2  ความเข้าใจเรื่องภาพถ่ายจากดาวเทียม Google สามารถอ่านได้จาก  เมื่อต้องใช้ข้อมูลจากการวัดระยะหรือวัดพื้นที่จากภาพถ่ายจากดาวเทียม Google http://www.geo2gis.com/index.php/geography/gis-2/321-measure-google  )

 

  • มาตราส่วนจะสัมพันธ์ในการทำ Generalization และ Symbolization ในแผนที่

    The scale plays a crucial role in the processes of generalization and symbolization in cartography.

    อ่านเพิ่มเติม...
  • การเรียกใช้ข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายสารสนเทศภูมิศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ เนื้อหาการบรรยายประกอบการทำ workshop การเรียกใช้ข้อมูลผ่านระบบเครือข่าย GIS ของ กทม. โดยนำข้อมูลมาใช้เทคนิคการวิเคราะห์ด้วยโปรแกรม ArcView

    อ่านเพิ่มเติม...
JSN Epic is designed by JoomlaShine.com